การพัฒนาความสามารถด้านการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด
โดย:
ดาริกา
[IP: 118.174.64.xxx]
เมื่อ: 2022-07-02 11:06:04
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิดสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด 3) เปรียบความสามารถด้านการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนสรุปความ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.78/ 84.11 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิดของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.5667 หรือ คิดเป็นร้อยละ 56.67
3. ความสามารถในการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด โดยภาพรวม
มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด
การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.78/ 84.11 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิดของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.5667 หรือ คิดเป็นร้อยละ 56.67
3. ความสามารถในการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบแผนผังความคิด โดยภาพรวม
มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments