การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน ร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท
โดย:
สุดารัตน์ วงศ์ยศ
[IP: 113.53.31.xxx]
เมื่อ: 2022-03-17 14:43:24
ผู้วิจัย สุดารัตน์ วงศ์ยศ
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) สร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนเทศบาล 5 เด่นห้า ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวนนักเรียน 40 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แผนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการคิดเชิงคำนวณ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที (Dependent sample t-test) และนําเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ตาราง และการบรรยาย
ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีชื่อเรียกว่า 3SE Model
มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.00/83.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งไว้ 80/80 2) ผลการใช้รูปแบบ
การจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่กำหนดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ คิดเป็นร้อยละ 83.00 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด (x ̅=4.58, S.D.=0.51)
คำสำคัญ : รูปแบบการจัดการเรียนรู้, ทักษะการคิดเชิงคำนวณ, ปรากฏการณ์เป็นฐาน, อินโฟกราฟิก
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) สร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนเทศบาล 5 เด่นห้า ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวนนักเรียน 40 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แผนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการคิดเชิงคำนวณ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที (Dependent sample t-test) และนําเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ตาราง และการบรรยาย
ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีชื่อเรียกว่า 3SE Model
มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.00/83.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งไว้ 80/80 2) ผลการใช้รูปแบบ
การจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่กำหนดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ คิดเป็นร้อยละ 83.00 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด (x ̅=4.58, S.D.=0.51)
คำสำคัญ : รูปแบบการจัดการเรียนรู้, ทักษะการคิดเชิงคำนวณ, ปรากฏการณ์เป็นฐาน, อินโฟกราฟิก
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments